นกพิราบนอกจากสร้างความรำคาญใจและความสกปรกให้กับอาคารบ้านเรือนแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรคหลายโรคอีกด้วย ซึ่งต้นเหตุของโรคมาจากส่วนของมูล ที่มันชอบทิ้งเรี่ยราดตามพื้นที่ต่าง ๆ
วันนี้เราจะมานำเสนอ โรคต่าง ๆ ที่มาจากมูลนกพิราบนั้นว่ามีอะไรบ้าง
โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis)
โรคสมองอักเสบจากเชื้อราคริปโตคอคคัส เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตได้ง่ายและพบในมูลนกพิราบ ส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ส่วนใหญ่คนจะรับเชื้อตัวนี้เข้าไปจากการสูดดม ลักษณะอาการจะคล้ายกับปอดอักเสบ คือ มีไข้ ปวดศีรษะแบบเป็น ๆ หาย ๆ วิงเวียนศีรษะ ปวดเบ้าตา อาเจียน ไอเป็นเลือด หลังจากนั้นเชื้ออาจแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปยังเนื้อเยื่ออื่น ๆ และก่อโรคอื่นต่อไป
ปอดอักเสบ
หากหายใจและสูดดมเอาเชื้อราชนิดนี้เข้าไปในปอด ก็อาจทำให้ปอดอักเสบได้ โดยเริ่มจากอาการปอดติดเชื้อก่อน แล้วอาจค่อยๆ ลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ ในนกพิราบยังมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “คลามัยเดีย” ที่ทำให้เกิดอาการปอดบวมได้อีกด้วย
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
เกิดขึ้นได้จากเชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียจากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราที่มาจากที่อยู่อาศัย สภาวะแวดล้อมไม่สะอาดนัก หรือมาจากพยาธิที่มากับอาหารที่ไม่สะอาด กึ่งสุกกึ่งดิบ ส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะแบบเป็น ๆ หาย ๆ เป็นไข้ ไอ ปวดหัว คลื่นไส้ อาจมีเลือดกำเดาไหล หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป หรือหากติดเชื้อแบคทีเรียแล้วอาการหนัก อาจชัก หมดสติ เป็นอัมพาต สมองพิการ หรืออาจเสียชีวิตได้
ไข้หวัดนก
เป็นหนึ่งโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอในสัตว์ปีก โดยเฉพาะการติดเชื้อสายพันธุ์ H5N1 ที่ก่อโรคไข้หวัดนกในคน ทำให้มีอาการคล้ายหวัดทั่วไป เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ไอ คัดจมูก ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ในตัวนกพิราบยังมีไรนก พยาธิ ไวรัสตับอักเสบบี เชื้อแบคทีเรียคลามัยเดียที่ก่อโรคปอดบวม อย่างไรก็ดี ในคนที่มีร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่ อาจได้รับอันตรายจากนกพิราบไม่มากนัก แต่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากกว่าคนปกติ ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น คนที่ได้รับยากดภูมิ หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาแต่กำเนิด นั้นมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง โดยควรป้องกันตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อราจากมูลนกพิราบ