Sanipro (Thailand) Co., Ltd.

ซานิโปร มาตรฐานญี่ปุ่น,แม่นยำ,ซื่อสัตย์

ทำไมนกในโรงงานถึงเป็นปัญหาใหญ่

นกอาจดูเป็นสัตว์ธรรมชาติที่ไม่มีพิษภัย แต่สำหรับโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานผลิตอาหารหรือสินค้าอุปโภค นกถือเป็น หนึ่งในปัญหาสุขอนามัยและความปลอดภัยที่ร้ายแรง ซึ่งหลายโรงงานมักมองข้าม
นกสามารถก่อให้เกิดปัญหาได้หลายด้าน ได้แก่:

    • การปนเปื้อนทางชีวภาพ (Biological Contamination) มูลนก ขน และเศษรังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและ
    • เชื้อรา เช่น Salmonella, E. coli, Histoplasma capsulatum ที่สามารถแพร่กระจายไปยังวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์
    • ผลกระทบต่อมาตรฐานการผลิต (Compliance Risk) มาตรฐาน GMP, HACCP และ ISO 22000 กำหนดชัดเจนว่าโรงงานต้องป้องกันสัตว์พาหะทุกชนิด รวมถึงนก การมีร่องรอยนกในพื้นที่ผลิตอาจทำให้โรงงานถูกตัดคะแนน หรือเสี่ยงต่อการถูกระงับการผลิต
    • ความเสียหายต่อทรัพย์สินและเครื่องจักร มูลนกมีฤทธิ์เป็นกรด สามารถกัดกร่อนโลหะ สี และวัสดุเคลือบเครื่องจักรได้ อีกทั้งรังนกอาจอุดตันท่อระบายหรือตัวกรองของระบบต่าง ๆ
    • ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของโรงงาน การพบปัญหานกในพื้นที่โรงงานโดยผู้ตรวจประเมิน ลูกค้า หรือคู่ค้าธุรกิจ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงอย่างรุนแรง

ดังนั้น การป้องกันและไล่นก ไม่ใช่เพียงเพื่อความสะอาดเท่านั้น แต่เป็นการ ปกป้องคุณภาพสินค้า 

ความปลอดภัยของผู้บริโภค และชื่อเสียงของโรงงาน

 

ความเสี่ยงของนกในโรงงานต่อสุขภาพและมาตรฐาน

โรคที่มากับนก

นกในโรงงานไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัญหาด้านความสะอาดเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งสะสมและแพร่กระจายของโรคร้ายแรงที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างมาก

    • Cryptococcosis โรคติดเชื้อจากเชื้อรา Cryptococcus neoformans ซึ่งมักพบในมูลนก โดยโรคนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และอาจลุกลามถึงสมองในกรณีรุนแรง
    • Histoplasmosis เกิดจากเชื้อรา Histoplasma capsulatum ที่มักเจริญเติบโตในมูลนกและฝุ่นละออง เชื้อนี้เข้าสู่ร่างกายผ่านทางการหายใจและอาจก่อให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ
    • Psittacosis (Ornithosis) โรคติดเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia psittaci ที่สามารถติดต่อจากนกสู่คนได้ ผ่านทางฝุ่นละอองจากมูลนกหรือนกที่ป่วย ทำให้เกิดอาการไข้ ไอ และอาจรุนแรงถึงปอดอักเสบ

การปนเปื้อนจากมูลนกและขน

มูลนกและขนที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นที่ผลิต อุปกรณ์ หรือวัตถุดิบ จะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการปนเปื้อนทั้งเชื้อโรคและสิ่งสกปรก

    • ส่งผลให้ คุณภาพผลิตภัณฑ์ต่ำลง
    • เพิ่มความเสี่ยงต่อการปฏิเสธสินค้าจากลูกค้าหรือผู้ตรวจสอบคุณภาพ
    • ทำให้เกิดปัญหาเรื่องกลิ่นและสิ่งสกปรกที่ไม่พึงประสงค์

 

 

 

 

 

ผลกระทบต่อมาตรฐานโรงงาน

มาตรฐานความปลอดภัยอาหาร เช่น GMP (Good Manufacturing Practice), HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) และ ISO 22000 ล้วนกำหนดให้มีมาตรการควบคุมสัตว์พาหะ โดยเฉพาะนก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนในโรงงาน

การที่โรงงานมีร่องรอยการบุกรุกของนกในพื้นที่ผลิตอาจทำให้:

    • เสี่ยงต่อการไม่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน
    • สูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้าและตลาด
    • ก่อให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจอย่างรุนแรง

ปัจจัยที่ดึงดูดนกเข้าสู่โรงงาน

การเข้าไปของนกในโรงงานไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีปัจจัยหลายประการที่เป็นตัวดึงดูดนกให้เข้ามาอยู่อาศัยหรือทำรังในบริเวณโรงงาน ซึ่งถ้าไม่รู้และจัดการจะกลายเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก

แหล่งอาหารที่ดึงดูดนก

    • เศษวัตถุดิบที่หล่นหรือเหลือค้างอยู่ในพื้นที่ผลิตหรือเก็บรักษา
    • ขยะอาหารหรือเศษอาหารที่ไม่ได้จัดเก็บอย่างมิดชิด
    • บริเวณพักผ่อนของพนักงานที่มีอาหารและเศษอาหารตกหล่น

แหล่งน้ำ

    • ท่อระบายน้ำหรือท่อน้ำที่รั่วซึม
    • รางน้ำและแอ่งน้ำที่เกิดจากการรั่วซึมหรือฝนตก
    • อ่างล้างมือหรือจุดที่มีน้ำขังในโรงงาน

โครงสร้างที่เหมาะแก่การทำรัง

    • หลังคาโรงงานที่มีช่องว่างหรือรอยแตก
    • คานเหล็กหรือโครงสร้างที่สูงและมืด
    • ช่องเปิดของประตู หน้าต่าง หรือช่องระบายอากาศที่ไม่ได้ปิดมิดชิด

สภาพแวดล้อมภายนอกโรงงาน

    • ต้นไม้หรือสวนที่อยู่ใกล้เคียงโรงงาน
    • บริเวณที่มีแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เช่น ทุ่งนา พื้นที่เกษตรกรรม
    • การจัดการพื้นที่รอบโรงงานที่ไม่เรียบร้อย มีเศษขยะหรือวัสดุเหลือใช้

วิธีไล่นกและป้องกันนกในโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การควบคุมนกในโรงงานจำเป็นต้องใช้มาตรการหลากหลายรูปแบบควบคู่กัน ทั้งการป้องกันเชิงโครงสร้าง การใช้วิธีไล่ และการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผลลัพธ์ยั่งยืนและปลอดภัย

การป้องกันเชิงโครงสร้าง (Exclusion) 

   

    • ตาข่ายกันนก (Bird Netting) ติดตั้งตาข่ายที่บริเวณช่องเปิด หลังคา หรือพื้นที่ที่นกมักทำรัง เพื่อป้องกันไม่ให้นกเข้ามาในพื้นที่ผลิตและเก็บรักษาวัตถุดิบ
    • เข็มกันนก (Bird Spikes) ติดตั้งบนขอบหน้าต่าง คาน หรือโครงสร้างที่นกชอบเกาะ เพื่อป้องกันการลงจอดและสร้างรัง
    • การปิดช่องเปิดและซ่อมแซมโครงสร้าง ตรวจสอบและซ่อมแซมช่องว่าง รอยแตก หรือช่องลมที่อาจเป็นทางเข้าออกของนก

การป้องกันเชิงไล่ (Deterrents)

    • เสียงไล่นก (Sonic Deterrents) ใช้เครื่องมือส่งเสียงที่รบกวนนกโดยไม่เป็นอันตราย เพื่อผลักดันให้นกออกจากพื้นที่
    • แสงไล่นก (Visual Deterrents) ใช้วัตถุสะท้อนแสง หุ่นนกนักล่า หรือแผ่นฟอยล์สะท้อนแสงเคลื่อนไหว เพื่อทำให้นกกลัวและไม่เข้าใกล้
    • เจลหรือสารไล่นก ใช้สารที่มีกลิ่นหรือสัมผัสที่นกไม่ชอบโดยปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ปนเปื้อนอาหาร

การจัดการสิ่งแวดล้อม

    • ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ กำจัดเศษอาหาร วัตถุดิบตกหล่น และขยะอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้นกมีแหล่งอาหาร
    • กำจัดแหล่งน้ำ ซ่อมแซมท่อรั่ว หรือกำจัดน้ำขังที่อาจเป็นแหล่งดื่มน้ำของนก
    • ควบคุมพื้นที่รอบโรงงาน ตัดแต่งต้นไม้และพุ่มไม้ ใกล้โรงงานเพื่อลดที่ซ่อนและทำรังของนก

บทสรุป – ทำไมการไล่นกจึงสำคัญต่อโรงงาน

นกในโรงงานไม่ใช่แค่ปัญหาที่มองข้ามได้ง่าย ๆ เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดความสกปรกแล้ว ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพพนักงานและคุณภาพผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังเสี่ยง
ต่อการทำลายมาตรฐานการผลิตอย่าง GMP, HACCP และ ISO 22000 ที่โรงงานต้องรักษา



การวางมาตรการป้องกันและไล่นกอย่างครบวงจร รวมถึงการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง คือกุญแจสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและรักษาคุณภาพโรงงานในระยะยาว ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีจัดการกับปัญหานกในโรงงานอย่างมืออาชีพ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านบริการกำจัดนกของเราพร้อมช่วยวางระบบป้องกันที่ปลอดภัยและได้ผลจริง ตอบโจทย์ทั้งความสะอาดและมาตรฐานโรงงาน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าธุรกิจจะดำเนินไปอย่างราบรื่นไร้กังวล

สนใจสอบถามบริการกำจัดนก หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อ

เราได้ทันที เพื่อรับการประเมินและแผนการจัดการที่เหมาะสมกับ

โรงงานของคุณ!

 

Previous Post
Newer Post

Leave A Comment

At vero eos et accusamus et iusto odio digni goikussimos ducimus qui to bonfo blanditiis praese. Ntium voluum deleniti atque.